مَتَّى 12

١ 1 فِي ذَلِكَ ٱلْوَقْتِ ذَهَبَ يَسُوعُ فِي ٱلسَّبْتِ بَيْنَ ٱلزُّرُوعِ، فَجَاعَ تَلَامِيذُهُ وَٱبْتَدَأُوا يَقْطِفُونَ سَنَابِلَ وَيَأْكُلُونَ.

อนนฺตรํ ยีศุ รฺวิศฺรามวาเร ศฺสฺยมเธฺยน คจฺฉติ, ตทา ตจฺฉิษฺยา พุภุกฺษิตา: สนฺต: ศฺสฺยมญฺชรีศฺฉตฺวา ฉิตฺวา ขาทิตุมารภนฺตฯ

٢ 2 فَٱلْفَرِّيسِيُّونَ لَمَّا نَظَرُوا قَالُوا لَهُ: «هُوَذَا تَلَامِيذُكَ يَفْعَلُونَ مَا لَا يَحِلُّ فَعْلُهُ فِي ٱلسَّبْتِ!».

ตทฺ วิโลกฺย ผิรูศิโน ยีศุํ ชคทุ: , ปศฺย วิศฺรามวาเร ยตฺ กรฺมฺมากรฺตฺตวฺยํ ตเทว ตว ศิษฺยา: กุรฺวฺวนฺติฯ

٣ 3 فَقَالَ لَهُمْ: «أَمَا قَرَأْتُمْ مَا فَعَلَهُ دَاوُدُ حِينَ جَاعَ هُوَ وَٱلَّذِينَ مَعَهُ؟

ส ตานฺ ปฺรตฺยาวทต, ทายูทฺ ตตฺสงฺคินศฺจ พุภุกฺษิตา: สนฺโต ยตฺ กรฺมฺมากุรฺวฺวนฺ ตตฺ กึ ยุษฺมาภิ รฺนาปาฐิ?

٤ 4 كَيْفَ دَخَلَ بَيْتَ ٱللهِ وَأَكَلَ خُبْزَ ٱلتَّقْدِمَةِ ٱلَّذِي لَمْ يَحِلَّ أَكْلُهُ لَهُ وَلَا لِلَّذِينَ مَعَهُ، بَلْ لِلْكَهَنَةِ فَقَطْ.

เย ทรฺศนียา: ปูปา: ยาชกานฺ วินา ตสฺย ตตฺสงฺคิมนุชานาญฺจาโภชนียาสฺต อีศฺวราวาสํ ปฺรวิษฺเฏน เตน ภุกฺตา: ฯ

٥ 5 أَوَ مَا قَرَأْتُمْ فِي ٱلتَّوْرَاةِ أَنَّ ٱلْكَهَنَةَ فِي ٱلسَّبْتِ فِي ٱلْهَيْكَلِ يُدَنِّسُونَ ٱلسَّبْتَ وَهُمْ أَبْرِيَاءُ؟

อนฺยจฺจ วิศฺรามวาเร มเธฺยมนฺทิรํ วิศฺรามวารียํ นิยมํ ลงฺวนฺโตปิ ยาชกา นิรฺโทษา ภวนฺติ, ศาสฺตฺรมเธฺย กิมิทมปิ ยุษฺมาภิ รฺน ปฐิตํ?

٦ 6 وَلَكِنْ أَقُولُ لَكُمْ: إِنَّ هَهُنَا أَعْظَمَ مِنَ ٱلْهَيْكَلِ!

ยุษฺมานหํ วทามิ, อตฺร สฺถาเน มนฺทิราทปิ ครียานฺ เอก อาเสฺตฯ

٧ 7 فَلَوْ عَلِمْتُمْ مَا هُوَ: إِنِّي أُرِيدُ رَحْمَةً لَا ذَبِيحَةً، لَمَا حَكَمْتُمْ عَلَى ٱلْأَبْرِيَاءِ!

กินฺตุ ทยายำ เม ยถา ปฺรีติ รฺน ตถา ยชฺญกรฺมฺมณิฯ เอตทฺวจนสฺยารฺถํ ยทิ ยุยมฺ อชฺญาสิษฺฏ ตรฺหิ นิรฺโทษานฺ โทษิโณ นาการฺษฺฏฯ

٨ 8 فَإِنَّ ٱبْنَ ٱلْإِنْسَانِ هُوَ رَبُّ ٱلسَّبْتِ أَيْضًا».

อนฺยจฺจ มนุชสุโต วิศฺรามวารสฺยาปิ ปติราเสฺตฯ

٩ 9 ثُمَّ ٱنْصَرَفَ مِنْ هُنَاكَ وَجَاءَ إِلَى مَجْمَعِهِمْ،

อนนฺตรํ ส ตตฺสฺถานาตฺ ปฺรสฺถาย เตษำ ภชนภวนํ ปฺรวิษฺฏวานฺ, ตทานีมฺ เอก: ศุษฺกกรามยวานฺ อุปสฺถิตวานฺฯ

١٠ 10 وَإِذَا إِنْسَانٌ يَدُهُ يَابِسَةٌ، فَسَأَلُوهُ قَائِلِينَ: «هَلْ يَحِلُّ ٱلْإِبْرَاءُ فِي ٱلسُّبُوتِ؟» لِكَيْ يَشْتَكُوا عَلَيْهِ.

ตโต ยีศุมฺ อปวทิตุํ มานุษา: ปปฺรจฺฉุ: , วิศฺรามวาเร นิรามยตฺวํ กรณียํ น วา?

١١ 11 فَقَالَ لَهُمْ: «أَيُّ إِنْسَانٍ مِنْكُمْ يَكُونُ لَهُ خَرُوفٌ وَاحِدٌ، فَإِنْ سَقَطَ هَذَا فِي ٱلسَّبْتِ فِي حُفْرَةٍ، أَفَمَا يُمْسِكُهُ وَيُقِيمُهُ؟

เตน ส ปฺรตฺยุวาจ, วิศฺรามวาเร ยทิ กสฺยจิทฺ อวิ รฺครฺตฺเต ปตติ, ตรฺหิ ยสฺตํ ฆฺฤตฺวา น โตลยติ, เอตาทฺฤโศ มนุโช ยุษฺมากํ มเธฺย ก อาเสฺต?

١٢ 12 فَٱلْإِنْسَانُ كَمْ هُوَ أَفْضَلُ مِنَ ٱلْخَرُوفِ! إِذًا يَحِلُّ فِعْلُ ٱلْخَيْرِ فِي ٱلسُّبُوتِ!».

อเว รฺมานว: กึ นหิ เศฺรยานฺ? อโต วิศฺรามวาเร หิตกรฺมฺม กรฺตฺตวฺยํฯ

١٣ 13 ثُمَّ قَالَ لِلْإِنْسَانِ: «مُدَّ يَدَكَ». فَمَدَّهَا. فَعَادَتْ صَحِيحَةً كَٱلْأُخْرَى.

อนนฺตรํ ส ตํ มานวํ คทิตวานฺ, กรํ ปฺรสารย; เตน กเร ปฺรสาริเต โสนฺยกรวตฺ สฺวโสฺถ'ภวตฺฯ

١٤ 14 فَلَمَّا خَرَجَ ٱلْفَرِّيسِيُّونَ تَشَاوَرُوا عَلَيْهِ لِكَيْ يُهْلِكُوهُ،

ตทา ผิรูศิโน พหิรฺภูย กถํ ตํ หนิษฺยาม อิติ กุมนฺตฺรณำ ตตฺปฺราติกูเลฺยน จกฺรุ: ฯ

١٥ 15 فَعَلِمَ يَسُوعُ وَٱنْصَرَفَ مِنْ هُنَاكَ. وَتَبِعَتْهُ جُمُوعٌ كَثِيرَةٌ فَشَفَاهُمْ جَمِيعًا.

ตโต ยีศุสฺตทฺ วิทิตฺวา สฺถนานฺตรํ คตวานฺ; อเนฺยษุ พหุนเรษุ ตตฺปศฺจาทฺ คเตษุ ตานฺ ส นิรามยานฺ กฺฤตฺวา อิตฺยาชฺญาปยตฺ,

١٦ 16 وَأَوْصَاهُمْ أَنْ لَا يُظْهِرُوهُ،

ยูยํ มำ น ปริจายยตฯ

١٧ 17 لِكَيْ يَتِمَّ مَا قِيلَ بِإِشَعْيَاءَ ٱلنَّبِيِّ ٱلْقَائِلِ:

ตสฺมาตฺ มม ปฺรีโย มโนนีโต มนสสฺตุษฺฏิการก: ฯ มทีย: เสวโก ยสฺตุ วิทฺยเต ตํ สมีกฺษตำฯ ตโสฺยปริ สฺวกียาตฺมา มยา สํสฺถาปยิษฺยเตฯ เตนานฺยเทศชาเตษุ วฺยวสฺถา สํปฺรกาศฺยเตฯ

١٨ 18 «هُوَذَا فَتَايَ ٱلَّذِي ٱخْتَرْتُهُ، حَبِيبِي ٱلَّذِي سُرَّتْ بِهِ نَفْسِي. أَضَعُ رُوحِي عَلَيْهِ فَيُخْبِرُ ٱلْأُمَمَ بِٱلْحَقِّ.

เกนาปิ น วิโรธํ ส วิวาทญฺจ กริษฺยติฯ น จ ราชปเถ เตน วจนํ ศฺราวยิษฺยเตฯ

١٩ 19 لَا يُخَاصِمُ وَلَا يَصِيحُ، وَلَا يَسْمَعُ أَحَدٌ فِي ٱلشَّوَارِعِ صَوْتَهُ.

วฺยวสฺถา จลิตา ยาวตฺ นหิ เตน กริษฺยเตฯ ตาวตฺ นโล วิทีรฺโณ'ปิ ภํกฺษฺยเต นหิ เตน จฯ ตถา สธูมวรฺตฺติญฺจ น ส นิรฺวฺวาปยิษฺยเตฯ

٢٠ 20 قَصَبَةً مَرْضُوضَةً لَا يَقْصِفُ، وَفَتِيلَةً مُدَخِّنَةً لَا يُطْفِئُ، حَتَّى يُخْرِجَ ٱلْحَقَّ إِلَى ٱلنُّصْرَةِ.

ปฺรตฺยาศาญฺจ กริษฺยนฺติ ตนฺนามฺนิ ภินฺนเทศชา: ฯ

٢١ 21 وَعَلَى ٱسْمِهِ يَكُونُ رَجَاءُ ٱلْأُمَمِ».

ยาเนฺยตานิ วจนานิ ยิศยิยภวิษฺยทฺวาทินา โปฺรกฺตานฺยาสนฺ, ตานิ สผลานฺยภวนฺฯ

٢٢ 22 حِينَئِذٍ أُحْضِرَ إِلَيْهِ مَجْنُونٌ أَعْمَى وَأَخْرَسُ فَشَفَاهُ، حَتَّى إِنَّ ٱلْأَعْمَى ٱلْأَخْرَسَ تَكَلَّمَ وَأَبْصَرَ.

อนนฺตรํ โลไก สฺตตฺสมีปมฺ อานีโต ภูตคฺรสฺตานฺธมูไกกมนุชเสฺตน สฺวสฺถีกฺฤต: , ตต: โส'โนฺธ มูโก ทฺรษฺฏุํ วกฺตุญฺจารพฺธวานฺฯ

٢٣ 23 فَبُهِتَ كُلُّ ٱلْجُمُوعِ وَقَالُوا: «أَلَعَلَّ هَذَا هُوَ ٱبْنُ دَاوُدَ؟».

อเนน สรฺเวฺว วิสฺมิตา: กถยาญฺจกฺรุ: , เอษ: กึ ทายูท: สนฺตาโน นหิ?

٢٤ 24 أَمَّا ٱلْفَرِّيسِيُّونَ فَلَمَّا سَمِعُوا قَالُوا: «هَذَا لَا يُخْرِجُ ٱلشَّيَاطِينَ إِلَّا بِبَعْلَزَبُولَ رَئِيسِ ٱلشَّيَاطِينِ».

กินฺตุ ผิรูศินสฺตตฺ ศฺรุตฺวา คทิตวนฺต: , พาลฺสิพูพฺนามฺโน ภูตราชสฺย สาหายฺยํ วินา นายํ ภูตานฺ ตฺยาชยติฯ

٢٥ 25 فَعَلِمَ يَسُوعُ أَفْكَارَهُمْ، وَقَالَ لَهُمْ: «كُلُّ مَمْلَكَةٍ مُنْقَسِمَةٍ عَلَى ذَاتِهَا تُخْرَبُ، وَكُلُّ مَدِينَةٍ أَوْ بَيْتٍ مُنْقَسِمٍ عَلَى ذَاتِهِ لَا يَثْبُتُ.

ตทานีํ ยีศุเสฺตษามฺ อิติ มานสํ วิชฺญาย ตานฺ อวทตฺ กิญฺจน ราชฺยํ ยทิ สฺววิปกฺษาทฺ ภิทฺยเต, ตรฺหิ ตตฺ อุจฺฉิทฺยเต; ยจฺจ กิญฺจน นครํ วา คฺฤหํ สฺววิปกฺษาทฺ วิภิทฺยเต, ตตฺ สฺถาตุํ น ศกฺโนติฯ

٢٦ 26 فَإِنْ كَانَ ٱلشَّيْطَانُ يُخْرِجُ ٱلشَّيْطَانَ فَقَدِ ٱنْقَسَمَ عَلَى ذَاتِهِ. فَكَيْفَ تَثْبُتُ مَمْلَكَتُهُ؟

ตทฺวตฺ ศยตาโน ยทิ ศยตานํ พหิ: กฺฤตฺวา สฺววิปกฺษาตฺ ปฺฤถกฺ ปฺฤถกฺ ภวติ, ตรฺหิ ตสฺย ราชฺยํ เกน ปฺรกาเรณ สฺถาสฺยติ?

٢٧ 27 وَإِنْ كُنْتُ أَنَا بِبَعْلَزَبُولَ أُخْرِجُ ٱلشَّيَاطِينَ، فَأَبْنَاؤُكُمْ بِمَنْ يُخْرِجُونَ؟ لِذَلِكَ هُمْ يَكُونُونَ قُضَاتَكُمْ!

อหญฺจ ยทิ พาลฺสิพูพา ภูตานฺ ตฺยาชยามิ, ตรฺหิ ยุษฺมากํ สนฺตานา: เกน ภูตานฺ ตฺยาชยนฺติ? ตสฺมาทฺ ยุษฺมากมฺ เอตทฺวิจารยิตารสฺต เอว ภวิษฺยนฺติฯ

٢٨ 28 وَلَكِنْ إِنْ كُنْتُ أَنَا بِرُوحِ ٱللهِ أُخْرِجُ ٱلشَّيَاطِينَ، فَقَدْ أَقْبَلَ عَلَيْكُمْ مَلَكُوتُ ٱللهِ!

กินฺตวหํ ยทีศฺวราตฺมนา ภูตานฺ ตฺยาชยามิ, ตรฺหีศฺวรสฺย ราชฺยํ ยุษฺมากํ สนฺนิธิมาคตวตฺฯ

٢٩ 29 أَمْ كَيْفَ يَسْتَطِيعُ أَحَدٌ أَنْ يَدْخُلَ بَيْتَ ٱلْقَوِيِّ وَيَنْهَبَ أَمْتِعَتَهُ، إِنْ لَمْ يَرْبِطِ ٱلْقَوِيَّ أَوَّلًا، وَحِينَئِذٍ يَنْهَبُ بَيْتَهُ؟

อนฺยญฺจ โกปิ พลวนฺต ชนํ ปฺรถมโต น พทฺวฺวา เกน ปฺรกาเรณ ตสฺย คฺฤหํ ปฺรวิศฺย ตทฺทฺรวฺยาทิ โลฐยิตุํ ศกฺโนติ? กินฺตุ ตตฺ กฺฤตฺวา ตทียคฺฤสฺย ทฺรวฺยาทิ โลฐยิตุํ ศกฺโนติฯ

٣٠ 30 مَنْ لَيْسَ مَعِي فَهُوَ عَلَيَّ، وَمَنْ لَا يَجْمَعُ مَعِي فَهُوَ يُفَرِّقُ.

ย: กศฺจิตฺ มม สฺวปกฺษีโย นหิ ส วิปกฺษีย อาเสฺต, ยศฺจ มยา สากํ น สํคฺฤหฺลาติ, ส วิกิรติฯ

٣١ 31 لِذَلِكَ أَقُولُ لَكُمْ: كُلُّ خَطِيَّةٍ وَتَجْدِيفٍ يُغْفَرُ لِلنَّاسِ، وَأَمَّا ٱلتَّجْدِيفُ عَلَى ٱلرُّوحِ فَلَنْ يُغْفَرَ لِلنَّاسِ.

อเตอว ยุษฺมานหํ วทามิ, มนุชานำ สรฺวฺวปฺรการปาปานำ นินฺทายาศฺจ มรฺษณํ ภวิตุํ ศกฺโนติ, กินฺตุ ปวิตฺรสฺยาตฺมโน วิรุทฺธนินฺทายา มรฺษณํ ภวิตุํ น ศกฺโนติฯ

٣٢ 32 وَمَنْ قَالَ كَلِمَةً عَلَى ٱبْنِ ٱلْإِنْسَانِ يُغْفَرُ لَهُ، وَأَمَّا مَنْ قَالَ عَلَى ٱلرُّوحِ ٱلْقُدُسِ فَلَنْ يُغْفَرَ لَهُ، لَا فِي هَذَا ٱلْعَالَمِ وَلَا فِي ٱلْآتِي. (aiōn g165)

โย มนุชสุตสฺย วิรุทฺธำ กถำ กถยติ, ตสฺยาปราธสฺย กฺษมา ภวิตุํ ศกฺโนติ, กินฺตุ ย: กศฺจิตฺ ปวิตฺรสฺยาตฺมโน วิรุทฺธำ กถำ กถยติ เนหโลเก น เปฺรตฺย ตสฺยาปราธสฺย กฺษมา ภวิตุํ ศกฺโนติฯ (aiōn g165)

٣٣ 33 اِجْعَلُوا ٱلشَّجَرَةَ جَيِّدَةً وَثَمَرَهَا جَيِّدًا، أَوِ ٱجْعَلُوا ٱلشَّجَرَةَ رَدِيَّةً وَثَمَرَهَا رَدِيًّا، لِأَنْ مِنَ ٱلثَّمَرِ تُعْرَفُ ٱلشَّجَرَةُ.

ปาทปํ ยทิ ภทฺรํ วทถ, ตรฺหิ ตสฺย ผลมปิ สาธุ วกฺตวฺยํ, ยทิ จ ปาทปํ อสาธุํ วทถ, ตรฺหิ ตสฺย ผลมปฺยสาธุ วกฺตวฺยํ; ยต: สฺวียสฺวียผเลน ปาทป: ปริจียเตฯ

٣٤ 34 يَا أَوْلَادَ ٱلْأَفَاعِي! كَيْفَ تَقْدِرُونَ أَنْ تَتَكَلَّمُوا بِٱلصَّالِحَاتِ وَأَنْتُمْ أَشْرَارٌ؟ فَإِنَّهُ مِنْ فَضْلَةِ ٱلْقَلْبِ يَتَكَلَّمُ ٱلْفَمُ.

เร ภุชควํศา ยูยมสาธว: สนฺต: กถํ สาธุ วากฺยํ วกฺตุํ ศกฺษฺยถ? ยสฺมาทฺ อนฺต: กรณสฺย ปูรฺณภาวานุสาราทฺ วทนาทฺ วโจ นิรฺคจฺฉติฯ

٣٥ 35 اَلْإِنْسَانُ ٱلصَّالِحُ مِنَ ٱلْكَنْزِ ٱلصَّالِحِ فِي ٱلْقَلْبِ يُخْرِجُ ٱلصَّالِحَاتِ، وَٱلْإِنْسَانُ ٱلشِّرِّيرُ مِنَ ٱلْكَنْزِ ٱلشِّرِّيرِ يُخْرِجُ ٱلشُّرُورَ.

เตน สาธุรฺมานโว'นฺต: กรณรูปาตฺ สาธุภาณฺฑาคาราตฺ สาธุ ทฺรวฺยํ นิรฺคมยติ, อสาธุรฺมานุษสฺตฺวสาธุภาณฺฑาคาราทฺ อสาธุวสฺตูนิ นิรฺคมยติฯ

٣٦ 36 وَلَكِنْ أَقُولُ لَكُمْ: إِنَّ كُلَّ كَلِمَةٍ بَطَّالَةٍ يَتَكَلَّمُ بِهَا ٱلنَّاسُ سَوْفَ يُعْطُونَ عَنْهَا حِسَابًا يَوْمَ ٱلدِّينِ.

กินฺตฺวหํ ยุษฺมานฺ วทามิ, มนุชา ยาวนฺตฺยาลสฺยวจำสิ วทนฺติ, วิจารทิเน ตทุตฺตรมวศฺยํ ทาตวฺยํ,

٣٧ 37 لِأَنَّكَ بِكَلَامِكَ تَتَبَرَّرُ وَبِكَلَامِكَ تُدَانُ».

ยตสฺตฺวํ สฺวียวโจภิ รฺนิรปราธ: สฺวียวโจภิศฺจ สาปราโธ คณิษฺยเสฯ

٣٨ 38 حِينَئِذٍ أَجَابَ قَوْمٌ مِنَ ٱلْكَتَبَةِ وَٱلْفَرِّيسِيِّينَ قَائِلِينَ: «يَا مُعَلِّمُ، نُرِيدُ أَنْ نَرَى مِنْكَ آيَةً».

ตทานีํ กติปยา อุปาธฺยายา: ผิรูศินศฺจ ชคทุ: , เห คุโร วยํ ภวตฺต: กิญฺจน ลกฺษฺม ทิทฺฤกฺษาม: ฯ

٣٩ 39 فَأَجابَ وَقَالَ لَهُمْ: «جِيلٌ شِرِّيرٌ وَفَاسِقٌ يَطْلُبُ آيَةً، وَلَا تُعْطَى لَهُ آيَةٌ إِلَّا آيَةَ يُونَانَ ٱلنَّبِيِّ.

ตทา ส ปฺรตฺยุกฺตวานฺ, ทุษฺโฏ วฺยภิจารี จ วํโศ ลกฺษฺม มฺฤคยเต, กินฺตุ ภวิษฺยทฺวาทิโน ยูนโส ลกฺษฺม วิหายานฺยตฺ กิมปิ ลกฺษฺม เต น ปฺรทรฺศยิษฺยนฺเตฯ

٤٠ 40 لِأَنَّهُ كَمَا كَانَ يُونَانُ فِي بَطْنِ ٱلْحُوتِ ثَلَاثَةَ أَيَّامٍ وَثَلَاثَ لَيَالٍ، هَكَذَا يَكُونُ ٱبْنُ ٱلْإِنْسَانِ فِي قَلْبِ ٱلْأَرْضِ ثَلَاثَةَ أَيَّامٍ وَثَلَاثَ لَيَالٍ.

ยโต ยูนมฺ ยถา ตฺรฺยโหราตฺรํ พฺฤหนฺมีนสฺย กุกฺษาวาสีตฺ, ตถา มนุชปุโตฺรปิ ตฺรฺยโหราตฺรํ เมทินฺยา มเธฺย สฺถาสฺยติฯ

٤١ 41 رِجَالُ نِينَوَى سَيَقُومُونَ فِي ٱلدِّينِ مَعَ هَذَا ٱلْجِيلِ وَيَدِينُونَهُ، لِأَنَّهُمْ تَابُوا بِمُنَادَاةِ يُونَانَ، وَهُوَذَا أَعْظَمُ مِنْ يُونَانَ هَهُنَا!

อปรํ นีนิวียา มานวา วิจารทิน เอตทฺวํศียานำ ปฺรติกูลมฺ อุตฺถาย ตานฺ โทษิณ: กริษฺยนฺติ, ยสฺมาตฺเต ยูนส อุปเทศาตฺ มนำสิ ปราวรฺตฺตยาญฺจกฺริเร, กินฺตฺวตฺร ยูนโสปิ คุรุตร เอก อาเสฺตฯ

٤٢ 42 مَلِكَةُ ٱلتَّيْمَنِ سَتَقُومُ فِي ٱلدِّينِ مَعَ هَذَا ٱلْجِيلِ وَتَدِينُهُ، لِأَنَّهَا أَتَتْ مِنْ أَقَاصِي ٱلْأَرْضِ لِتَسْمَعَ حِكْمَةَ سُلَيْمَانَ، وَهُوَذَا أَعْظَمُ مِنْ سُلَيْمَانَ هَهُنَا!

ปุนศฺจ ทกฺษิณเทศียา ราชฺญี วิจารทิน เอตทฺวํศียานำ ปฺรติกูลมุตฺถาย ตานฺ โทษิณ: กริษฺยติ ยต: สา ราชฺญี สุเลมโน วิทฺยายา: กถำ โศฺรตุํ เมทินฺยา: สีมฺน อาคจฺฉตฺ, กินฺตุ สุเลมโนปิ คุรุตร เอโก ชโน'ตฺร อาเสฺตฯ

٤٣ 43 إِذَا خَرَجَ ٱلرُّوحُ ٱلنَّجِسُ مِنَ ٱلْإِنْسَانِ يَجْتَازُ فِي أَمَاكِنَ لَيْسَ فِيهَا مَاءٌ، يَطْلُبُ رَاحَةً وَلَا يَجِدُ.

อปรํ มนุชาทฺ พหิรฺคโต 'ปวิตฺรภูต: ศุษฺกสฺถาเนน คตฺวา วิศฺรามํ คเวษยติ, กินฺตุ ตทลภมาน: ส วกฺติ, ยสฺมา; นิเกตนาทฺ อาคมํ, ตเทว เวศฺม ปกาวฺฤตฺย ยามิฯ

٤٤ 44 ثُمَّ يَقُولُ: أَرْجِعُ إِلَى بَيْتِي ٱلَّذِي خَرَجْتُ مِنْهُ. فَيَأْتِي وَيَجِدُهُ فَارِغًا مَكْنُوسًا مُزَيَّنًا.

ปศฺจาตฺ ส ตตฺ สฺถานมฺ อุปสฺถาย ตตฺ ศูนฺยํ มารฺชฺชิตํ โศภิตญฺจ วิโลกฺย วฺรชนฺ สฺวโตปิ ทุษฺฏตรานฺ อนฺยสปฺตภูตานฺ สงฺคิน: กโรติฯ

٤٥ 45 ثُمَّ يَذْهَبُ وَيَأْخُذُ مَعَهُ سَبْعَةَ أَرْوَاحٍ أُخَرَ أَشَرَّ مِنْهُ، فَتَدْخُلُ وَتَسْكُنُ هُنَاكَ، فَتَصِيرُ أَوَاخِرُ ذَلِكَ ٱلْإِنْسَانِ أَشَرَّ مِنْ أَوَائِلِهِ! هَكَذَا يَكُونُ أَيْضًا لِهَذَا ٱلْجِيلِ ٱلشِّرِّيرِ».

ตตเสฺต ตตฺ สฺถานํ ปฺรวิศฺย นิวสนฺติ, เตน ตสฺย มนุชสฺย เศษทศา ปูรฺวฺวทศาโตตีวาศุภา ภวติ, เอเตษำ ทุษฺฏวํศฺยานามปิ ตไถว ฆฏิษฺยเตฯ

٤٦ 46 وَفِيمَا هُوَ يُكَلِّمُ ٱلْجُمُوعَ إِذَا أُمُّهُ وَإِخْوَتُهُ قَدْ وَقَفُوا خَارِجًا طَالِبِينَ أَنْ يُكَلِّمُوهُ.

มานเวภฺย เอตาสำ กถนำ กถนกาเล ตสฺย มาตา สหชาศฺจ เตน สากํ กาญฺจิตฺ กถำ กถยิตุํ วาญฺฉนฺโต พหิเรว สฺถิตวนฺต: ฯ

٤٧ 47 فَقَالَ لَهُ وَاحِدٌ: «هُوَذَا أُمُّكَ وَإِخْوَتُكَ وَاقِفُونَ خَارِجًا طَالِبِينَ أَنْ يُكَلِّمُوكَ».

ตต: กศฺจิตฺ ตไสฺม กถิตวานฺ, ปศฺย ตว ชนนี สหชาศฺจ ตฺวยา สากํ กาญฺจน กถำ กถยิตุํ กามยมานา พหิสฺติษฺฐนฺติฯ

٤٨ 48 فَأَجَابَ وَقَالَ لِلْقَائِلِ لَهُ: «مَنْ هِيَ أُمِّي وَمَنْ هُمْ إِخْوَتي؟».

กินฺตุ ส ตํ ปฺรตฺยวทตฺ, มม กา ชนนี? เก วา มม สหชา: ?

٤٩ 49 ثُمَّ مَدَّ يَدَهُ نَحْوَ تَلَامِيذِهِ وَقَالَ: «هَا أُمِّي وَإِخْوَتِي.

ปศฺจาตฺ ศิษฺยานฺ ปฺรติ กรํ ปฺรสารฺยฺย กถิตวานฺ, ปศฺย มม ชนนี มม สหชาศฺไจเต;

٥٠ 50 لِأَنَّ مَنْ يَصْنَعُ مَشِيئَةَ أَبِي ٱلَّذِي فِي ٱلسَّمَاوَاتِ هُوَ أَخِي وَأُخْتِي وَأُمِّي».

ย: กศฺจิตฺ มม สฺวรฺคสฺถสฺย ปิตุริษฺฏํ กรฺมฺม กุรุเต, เสอว มม ภฺราตา ภคินี ชนนี จฯ

The Disciples Pluck Grain on the Sabbath